คำถามส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ และ ซอฟต์แวร์
1.ให้นักเรียนบอกประโยชน์ ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ตอบ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์การประยุกต์ใช้งานเครือข่
2.จงบอกองค์ประกอบพื้
ตอบ การสื่อสารข้อมูลมีองค์ ประกอบ 5 อย่าง (ดังรูป) ได้แก่
3. สื่อกลาง (Medium) หรือตัวกลาง เป็นเส้นทางการสื่อสารเพื่อนำข้ อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง สื่อส่งข้อมูลอาจเป็นสายคู่บิ ดเกลียว สายโคแอกเชียล สายใยแก้วนำแสง หรือคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น เลเซอร์ คลื่นไมโครเวฟ คลื่นวิทยุภาคพื้นดิน หรือคลื่นวิทยุผ่านดาวเทียม
4. ข้อมูลข่าวสาร (Message) คือสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่ งผ่านไปในระบบสื่อสาร ซึ่งอาจถูกเรียกว่า สารสนเทศ (Information) โดยแบ่งเป็น 5รูปแบบ ดังนี้
4.1 ข้อความ (Text) ใช้แทนตัวอักขระต่าง ๆ ซึ่งจะแทนด้วยรหัสต่าง ๆ เช่น รหัสแอสกี เป็นต้น
4.2 ตัวเลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งตัวเลขไม่ได้ถูกแทนด้วยรหั สแอสกีแต่จะถูกแปลงเป็ นเลขฐานสองโดยตรง
4.3 รูปภาพ (Images) ข้อมูลของรูปภาพจะแทนด้วยจุดสี เรียงกันไปตามขนาดของรูปภาพ
4.4 เสียง (Audio) ข้อมูลเสียงจะแตกต่างจากข้อความ ตัวเลข และรูปภาพเพราะข้อมูลเสียงจะเป็ นสัญญาณต่อเนื่องกันไป
4.5 วิดีโอ (Video) ใช้แสดงภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเกิดจากการรวมกันของรู ปภาพหลาย ๆ รูป
5. โปรโตคอล (Protocol) คือ วิธีการหรือกฎระเบียบที่ใช้ ในการสื่อสารข้อมูลเพื่อให้ผู้ รับและผู้ส่งสามารถเข้าใจกันหรื อคุยกันรู้เรื่อง โดยทั้งสองฝั่งทั้งผู้รับและผู้ ส่งได้ตกลงกันไว้ก่อนล่วงหน้ าแล้ว ในคอมพิวเตอร์โปรโตคอลอยู่ในส่ วนของซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ ทำให้การดำเนินงาน ในการสื่อสารข้อมูลเป็ นไปตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น X.25, SDLC, HDLC, และ TCP/IP เป็นต้น
1. ผู้ส่ง (Sender) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งข่ าวสาร (Message) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมู ลมีหน้าที่เตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พูด โทรทัศน์ กล้องวิดีโอ เป็นต้น
2. ผู้รับ (Receiver) เป็นปลายทางการสื่อสาร มีหน้าที่รับข้อมูลที่ส่งมาให้ เช่น ผู้ฟัง เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องพิมพ์ เป็นต้น3. สื่อกลาง (Medium) หรือตัวกลาง เป็นเส้นทางการสื่อสารเพื่อนำข้
4. ข้อมูลข่าวสาร (Message) คือสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่
4.1 ข้อความ (Text) ใช้แทนตัวอักขระต่าง ๆ ซึ่งจะแทนด้วยรหัสต่าง ๆ เช่น รหัสแอสกี เป็นต้น
4.2 ตัวเลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งตัวเลขไม่ได้ถูกแทนด้วยรหั
4.3 รูปภาพ (Images) ข้อมูลของรูปภาพจะแทนด้วยจุดสี
4.4 เสียง (Audio) ข้อมูลเสียงจะแตกต่างจากข้อความ ตัวเลข และรูปภาพเพราะข้อมูลเสียงจะเป็
4.5 วิดีโอ (Video) ใช้แสดงภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเกิดจากการรวมกันของรู
5. โปรโตคอล (Protocol) คือ วิธีการหรือกฎระเบียบที่ใช้
3.จงบอกทิศทางของการสื่อสารข้
ตอบ สามารถแบ่งทิศทางการสื่ อสารของข้อมูลได้เป็น 3 แบบ คือ
1. แบบทิศทางเดียว (Simplex)หรือเรียกว่า “การสื่อสารแบบทางเดียว”(One- way Communication)เป็นทิศทางการสื่ อสารข้อมูลแบบที่ข้อมูลจะถูกส่ งจากทิศทางหนึ่งไปยังอีกทิ ศทางโดยไม่สามารถส่งข้อมูลย้ อนกลับมาได้เช่น การกระจายเสียงจากสถานีวิทยุ การเผยแพร่ภาพและรายการต่ างๆของสถานีโทรทัศน์ เป็นต้น
2. แบบกึ่งสองทิศทาง ( Half Duplex)หรือเรียกว่า “การสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่ง (Either-way Communication)” เป็นทิศทางการสื่อสารข้อมู ลแบบที่ข้อมูลสามารถส่งกลับกั นได้ 2 ทิศทาง แต่จะไม่สามารถส่งพร้อมกันได้ โดยต้องผลัดกันส่งครั้งละทิ ศทางเท่านั้น เช่น วิทยุสื่อสารแบบผลัดกันพูด
3. แบบสองทิศทาง (Full Duplex)หรือเรียกว่า “การสื่อสารแบบสองทาง (Both-way Communication)” เป็นทิศทางการสื่อสารข้อมู ลแบบที่ข้อมูลสามารถส่งพร้อม ๆ กันได้ทั้ง 2 ทิศทาง ในเวลาเดียวกัน เช่น ระบบโทรศัพท์ โดยที่คู่สนทนาสามารถพูดคุยโต้ ตอบกันได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ต้องกดสวิตซ์ เพื่อเปลี่ยนสถานะก่อนที่จะสื่ อสาร
1. แบบทิศทางเดียว (Simplex)หรือเรียกว่า “การสื่อสารแบบทางเดียว”(One-
2. แบบกึ่งสองทิศทาง ( Half Duplex)หรือเรียกว่า “การสื่อสารแบบทางใดทางหนึ่ง (Either-way Communication)” เป็นทิศทางการสื่อสารข้อมู
3. แบบสองทิศทาง (Full Duplex)หรือเรียกว่า “การสื่อสารแบบสองทาง (Both-way Communication)” เป็นทิศทางการสื่อสารข้อมู
4.จงบอกชนิดของการสื่อสารแบบไร้
ตอบ
1) คลื่นวิทยุ (Radio Wave) วิธี การสื่อสารประเภทนี้จะใช้การส่ งคลื่นไปในอากาศ เพื่อส่งไปยังเครื่องรับวิทยุ โดยรวมกับคลื่นเสียงมีความถี่ เสียงที่เป็นรูป แบบของคลื่นไฟฟ้า ดังนั้นการส่งวิทยุกระจายเสี ยงจึงไม่ต้องใช้สายส่งข้อมูล และยังสามารถส่งคลื่นสั ญญาณไปได้ระยะไกล ซึ่งจะอยู่ในช่วงความถี่ระหว่าง 104 - 109 เฮิรตซ์ ดังนั้ัน เครื่องรับวิทยุจะต้องปรับช่ องความถี่ให้กับคลื่นวิทยุที่ส่ งมา ทำให้สามารถรับข้อมูลได้อย่างชั ดเจน
2) สัญญาณไมโครเวฟ (Microwave)
เป็นสื่อกลางในการสื่อสารที่มี ความเร็วสูง ส่งข้อมูลโดยอาศัยสั ญญาณไมโครเวฟ ซึ่งเป็นสัญญาณคลื่นแม่เหล็ กไฟฟ้าไปในอากาศพร้อมกับข้อมู ลที่ต้องการส่ง และจะต้องมีสถานีที่ทำหน้าที่ส่ งและรับข้อมูล และเนื่องจากสั ญญาณไมโครเวฟจะเดินทางเป็นเส้ นตรง ไม่สามารถเลี้ยวหรือโค้ งตามขอบโลกที่มีความโค้งได้ จึงต้องมีการตั้งสถานีรับ - ส่งข้อมูลเป็นระยะๆ และส่งข้อมูลต่อกันเป็นทอดๆ ระหว่างสถานีต่อสถานีจนกว่าจะถึ งสถานีปลายทาง และแต่ละสถานีจะตั้งอยู่ในที่สู ง ซึ่งจะอยู่ในช่วงความถี่ 108 - 1012 เฮิรตซ์
3) แสงอินฟราเรด (Infrared)
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ อยู่ในช่วง 1011 – 1014 เฮิรตซ์ หรือความยาวคลื่น 10-3 – 10-6 เมตร เรียกว่า รังสีอินฟราเรด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คลื่นความถี่สั้น (Millimeter waves)ซึ่งจะมีย่านความถี่ คาบเกี่ยวกับย่านความถี่ของคลื่ นไมโครเวฟอยู่บ้าง วัตถุร้อน จะแผ่รังสีอินฟราเรดที่มี ความยาวคลื่นสั้นกว่า 10-4 เมตรออกมา ประสาทสัมผัสทางผิวหนังของมนุ ษย์สามารถรับรังสีอินฟราเรด ลำแสงอินฟราเรดเดินทางเป็นเส้ นตรง ไม่สามารถผ่านวัตถุทึบแสง และสามารถสะท้อนแสงในวัสดุผิ วเรียบได้เหมือนกับแสงทั่วไปใช้ มากในการสื่อสาร ระยะใกล้
4) ดาวเทียม (satilite)
ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อหลี กเลี่ยงข้อจำกัดของสถานีรับ - ส่งไมโครเวฟบนผิวโลก วัตถุประสงค์ในการสร้างดาวเที ยมเพื่อเป็นสถานีรับ - ส่งสัญญาณไมโครเวฟบนอวกาศ และทวนสัญญาณในแนวโคจรของโลก ในการส่งสัญญาณดาวเทียมจะต้องมี สถานีภาคพื้นดินคอยทำหน้าที่รับ และส่งสัญญาณขึ้นไปบนดาวเทียมที ่โคจรอยู่สูงจากพื้นโลก 22,300 ไมล์ โดยดาวเทียมเหล่านั้น จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เท่ ากับการหมุนของโลก จึงเสมือนกับดาวเทียมนั้นอยู่นิ ่งอยู่กับที่ ขณะที่โลกหมุนรอบตัวเอง ทำให้การส่งสั ญญาณไมโครเวฟจากสถานีหนึ่งขึ้ นไปบนดาวเทียมและการกระจายสั ญญาณ จากดาวเทียมลงมายังสถานีตามจุ ดต่างๆ บนผิวโลกเป็นไปอย่างแม่นยำ ดาวเทียมสามารถโคจรอยู่ได้ โดยอาศัยพลังงานที่ได้ มาจากการเปลี่ยน พลังงานแสงอาทิตย์ ด้วย แผงโซลาร์ (solar panel)
5) บลูทูธ (Bluetooth)
ระบบสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็ คโทรนิคแบบสองทาง ด้วยคลื่นวิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้สายเคเบิ้ล หรือ สายสัญญาณเชื่อมต่อ และไม่จำเป็นจะต้องใช้การเดิ นทางแบบเส้นตรงเหมือนกับอิ นฟราเรด ซึ่งถือว่าเพิ่มความสะดวกมากกว่ าการเชื่อมต่อแบบอินฟราเรด ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่ างโทรศัพท์มือถือ กับอุปกรณ์ ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อนๆ และในการวิจัย ไม่ได้มุ่งเฉพาะการส่งข้อมูลเพี ยงอย่างเดียว แต่ยังศึกษาถึงการส่งข้อมูลที่ เป็นเสียง เพื่อใช้สำหรับ Headset บนโทรศัพท์มือถือด้วยเทคโนโลยี บลูทูธ เป็นเทคโนโลยีสำหรับการเชื่อมต่ ออุปกรณ์แบบไร้สายที่น่าจั บตามองเป็นอย่าง ยิ่งในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องความสะดวกในการใช้ งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และประสิทธิภาพในการทำงาน เนื่องจาก เทคโนโลยี บลูทูธ มีราคาถูก ใช้พลังงานน้อย และใช้เทคโนโลยี short – range ซึ่งในอนาคต จะถูกนำมาใช้ในการพัฒนา เพื่อนำไปสู่การแทนที่อุปกรณ์ต่ างๆ ที่ใช้สาย เคเบิล เช่น Headset สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น ฺิิิ เทคโนโลยีการเชื่อมโยงหรือการสื ่อสารแบบใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้น เป็นเทคโนโลยีของอินเตอร์ เฟซทางคลื่นวิทยุ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสื่ อสารระยะใกล้ที่ปลอดภัยผ่านช่ องสัญญาณความถี่ 2.4 Ghz โดยที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดข้ อจำกัดของการใช้สายเคเบิ ลในการเชื่อมโยงโดยมี ความเร็วในการเชื่อมโยงสูงสุดที ่ 1 mbp ระยะครอบคลุม 10 เมตร เทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุ ของบลูทูธจะใช้การกระโดดเปลี่ ยนความถี่ (Frequency hop) เพราะว่าเทคโนโลยีนี้เหมาะที่ จะใช้กับการส่งคลื่นวิทยุที่มี กำลังส่งต่ำและ ราคาถูก โดยจะแบ่งออกเป็นหลายช่องความถึ ่ขนาดเล็ก ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนช่ องความถึ่ที่ไม่แน่นอนทำให้ สามารถหลีกหนีสัญญา นรบกวนที่เข้ามาแทรกแซงได้ ซึ่งอุปกรณ์ที่จะได้รับการยอมรั บว่าเป็นเทคโนโลยีบลูทูธ ต้องผ่านการทดสอบจาก Bluetooth SIG (Special Interest Group) เสียก่อนเพื่อยืนยันว่ามั นสามารถที่จะทำงานร่วมกับอุ ปกรณ์บลูทูธตัวอื่นๆ และอินเตอร์เน็ตได้
1) คลื่นวิทยุ (Radio Wave) วิธี การสื่อสารประเภทนี้จะใช้การส่
2) สัญญาณไมโครเวฟ (Microwave)
เป็นสื่อกลางในการสื่อสารที่มี
3) แสงอินฟราเรด (Infrared)
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่
4) ดาวเทียม (satilite)
ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อหลี
5) บลูทูธ (Bluetooth)
ระบบสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็
5.รุปแบบเครือข่าย (network topology) มีกี่แบบ ให้นักเรียนวาดรูปพร้อมอธิบาย
ตอบ
การนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกั
1. เครือข่ายแบบบัส (bus topology) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิ
ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบบัส คือ ใช้สื่อนำข้อมูลน้อย ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่
ข้อเสียคือ การตรวจจุดที่มีปัญหา กระทำได้ค่อนข้างยาก และถ้ามีจำนวนเครื่องคอมพิ
ข้อจำกัด คือ จำเป็นต้องใช้วงจรสื่
2. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิ
ข้อดีของโครงสร้าง เครือข่ายแบบวงแหวนคือ ใช้สายเคเบิ้ลน้อย และถ้าตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่
ข้อจำกัด ถ้าเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครื
3. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์
4. โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม (Hybrid Topology) คือ เป็นเครือข่ายที่ผสมผสานกันทั้
6.จงอธิบายเกี่ยวกับเครือข่าย LAN
ตอบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้องถิ่
ลักษณะสำคัญของเครือข่ายแลน คือ อุปกรณ์ที่ประกอบภายในเครือข่
7.จงอธิบายเกี่ยวกับเครือข่าย MAN
ตอบ MAN ย่อมาจาก Metropolitan Area Network คือ เครือข่ายระดับเมือง ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มักเชื่ อมโยงกันเฉพาะในเขตเมืองเดียวกั น หรือหลายเขตเมืองที่อยู่ใกล้กัน ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ระบบเครือข่าย MAN เป็นกลุ่มของเครือข่าย LAN ที่ นำมาเชื่อมต่อกันเป็นวงที่ใหญ่ ขึ้นภายในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานให้ ครอบคลุมเมืองทั้งเมือง ซึ่งอาจเป็นเครือข่ายเดียวกัน เช่น เครือข่ายเคเ้บิลทีวี หรืออาจเป็นการรวมเครือข่ายกั นของเครือข่าย LAN หลาย ๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน ตัวอย่าง เช่น ภายในมหาวิทยาลัยหรือในสถานศึ กษาหนึ่งๆ จะมีระบบ MAN เพื่อเชื่อมต่อระบบ LAN ของแต่ละคณะวิชาเข้าด้วยกันเป็ นเครือข่ายเดียวกันในวงกว้าง เทคโนโลยีที่ใช้ในเครือข่าย MAN ได้แก่ ATM, FDDI และ SMDS ระบบเครือข่าย MAN ที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้ คือระบบที่จะเชื่อมต่อคอมพิ วเตอร์ภายในเมืองเข้าด้วยกั นโดยผ่านเทคโนโลยี Wi-Max
8.จงอธิบายเกี่ยวกับเครือข่าย WAN
ตอบ เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ ในระยะห่างไกล เช่น เชื่อมโยงระหว่างจังหวัด ระหว่างประเทศ การสร้างเครือข่ายระยะไกล จึงต้องพึ่งพาระบบบริการเครือข่ ายสาธารณะเช่น ใช้สายวงจรเช่าจากองค์การโทรศั พท์แห่งประเทศไทย หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย ใช้วงจรสื่อสารผ่านดาวเทียม ใช้วงจรสื่อสารเฉพาะกิจที่มีให้ บริการแบบสาธารณะ เครือข่ายแวนจึงเป็นเครือข่ายที ่ใช้กับองค์กรที่มีสาขาห่างไกล และต้องการเชื่อมสาขาเหล่านั้ นเข้าด้วยกัน เช่น ธนาคาร มีสาขาทั่วประเทศ มีบริการรับฝากถอนเงินผ่านตู้ เอทีเอ็ม เครือข่ายแวนเชื่ อมระยะทางไกลมาก จึงมีความเร็วในการสื่อสารไม่สู ง เนื่องจากจะมีสัญญาณรบกวนในสาย และการเชื่อมโยงระยะไกลจำเป็นต้ องใช้เทคนิคพิเศษในการลดปัญหา ข้อผิดพลาดของการรับส่งข้อมูล
เครือข่ายแวน เป็นเครือข่ายที่ทำให้เครือข่
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครื
บทบาทของเครือข่ายแวนจะทำให้ทุ
9.ให้บอกความแตกต่างระหว่าง เครือข่าย Peer to Peer กับ Server-base(Client Server)มีอะไรบ้าง
ตอบ Peer-to-peer (P2P) เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมู ลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบ client-client โดยที่ client แต่ละเครื่องมีข้อมูลเก็บอยู่ และสามารถจำลองตนเองเป็น server เพื่อเปิดให้ client เครื่องอื่นๆ สามารถเข้ามาโหลดข้อมูลจากเครื่ องของตนเองได้โดยอาศัยพลั งงานและ bandwidth ที่เครื่องตนเองมี ซึ่งจะแตกต่างกับการสื่อสารแบบ client-server ที่มี server เก็บข้อมูลไว้เพียงเครื่องเดียว และเปิดให้ client เครื่องอื่นเข้ามาโหลดข้อมูลhtt p://guru.google.co.th/guru/ thread?tid=7e10096e5531969d& table=%2Fguru%2F&clk=wttpcts
ระบบเครือข่ายแบบนี้จะมีคอมพิ วเตอร์หลักอยู่หนึ่งเครื่อง เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์ (server) หรือ เครื่องแม่ข่าย ทำหน้าที่เก็บข้อมูล โปรแกรม และแชร์ไฟล์หรือโปรแกรมนั้นให้ กับเครื่องลูกข่าย อีกทั้งยังทำหน้าที่ประมวลผล และส่งผลลัพธ์ที่ได้ไปให้เครื่ องลูกข่าย ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องให้บริ การเครื่องคอมพิวเตอร์อื่ นในเครือข่ายที่ร้องขอ เข้ามา รวมทั้งเป็นยังผู้จัดการดู แลการจราจรในระบบเครือข่ายทั้ งหมด
เครื่อง คอมพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย จะสามารถเข้าใช้งานไฟล์ต่าง ๆ ในเซิร์ฟเวอร์ได้ แต่ไม่สามารถเข้าใช้งานไฟล์ ในเครื่องอื่นๆ ได้ นั่นคือการติดต่อกันระหว่างเครื ่องต่างๆ จะต้องผ่านเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เครื่องผู้ใช้ จะทำการประมวลผลในงานของตนเท่ านั้น ไม่มีหน้าที่ในการให้บริการกั บเครื่องอื่นๆ ในระบบ
เซิร์ฟเวอร์จะต้องมีหน่ วยความจำสำรอง (harddisk) ขนาดใหญ่เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมด และควรเป็นเครื่องที่มี สมรรถนะสูง ชนิดของเซิร์ฟเวอร์มีได้ 2 รูปแบบคือ
(1) Dedicated server หมาย ถึง เซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่บริ การอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในงานทั่วๆ ไปได้ ข้อดีคือทำให้ระบบมีเสถี ยรภาพและมีประสิทธิภาพสูง ข้อเสียคือไม่สามารถใช้งานเครื่ องเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงได้
(2) Non-dedicated server หมาย ถึง เซิร์ฟเวอร์ที่สามารถใช้งานได้ ตามปกติเหมือนเครื่องลูกข่าย ซึ่งมีข้อเสียที่สำคัญคือประสิ ทธิภาพของเครือข่ายจะลดลง ทำให้วิธีนี้ไม่เป็นที่นิ ยมในการใช้งาน
http://guru.google.co.th/guru/ thread?tid=4ea50985908fcc85& table=%2Fguru%2F&clk=wttpcts
ระบบเครือข่ายแบบนี้จะมีคอมพิ
เครื่อง คอมพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย จะสามารถเข้าใช้งานไฟล์ต่าง ๆ ในเซิร์ฟเวอร์ได้ แต่ไม่สามารถเข้าใช้งานไฟล์
เซิร์ฟเวอร์จะต้องมีหน่
(1) Dedicated server หมาย ถึง เซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่บริ
(2) Non-dedicated server หมาย ถึง เซิร์ฟเวอร์ที่สามารถใช้งานได้
http://guru.google.co.th/guru/
10.อีคอมเมิร์ท (E-commerce)คืออะไร
ตอบ E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็ กทรอนิกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิ จที่องค์กรได้วางไว้ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้ จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธุ รกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้า เป็นต้น จึงลดข้อจำกัดของระยะทาง และเวลาลงได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น